"วิญญาณตนต่อไป" เสียงยมฑูตผู้ถือบันทึกแห่งความตายกำลังพิพากษวิญญาณตนแล้วตนเล่าเพื่อส่งไปชดใช้กรรมในภพภูมิต่างๆและผมก็เป็นหนึ่งในวิญญาเหล่านั้นที่ยืนรอคำพิพากษา
อ่า ใช้ครับผมตายแล้ว อย่าแปลกใจเลยว่าตายยังไงเพราะตัวผมเองยังไม่รู้เหมือนกัน แค่ตอนนั้นเหมือนจะง่วงนอนมากๆรู้สึกตัวอีกทีก็โผลมาที่นี้แล้ว
โอ๊ะ! มีวิญญาณเหมือนผู้ทรงศีลอะไรสักอย่างกำลังดื่มน้ำแกงลืมชาติที่รับจากยมฑูตที่ยืนเคี่ยวมันอยู่ในหม้อดินเผ่าขนาดใหญ่ ได้ไปประตูภพภูมิเทวะเทพซะด้วย ผมมองไปที่ประตูพิภพที่ปรากฎขึ้นทุกครั้งที่จบคำพิพากษามันเปลี่ยนเป็นพิภพต่างๆตามคำตัดสินของยมฑูตและเมื่อผมวาดสายตามองไปรอบๆดูเหมือนว่าในพิภพวิญญานนี้จะไม่ได้มีแค่วิญญาณมนุษย์เพราะบางตนก็มีเขามีปีกและหางงอกออกมาจากบางส่วนของร่างกายเหมือนสัตว์อสูรในตำนานตามหนังสือที่ผมเคยเห็นผ่านตามา
แล้วตอนนี้ก็ถึงคิวผมแล้วล่ะพี่ยมฑูตหน้าคมเข้มผิวสีแทนกำลังก้มหน้าอ่านประวัติผมในบันทึก
"วิญญาณ เนติภัทร์ รัชติกุล อายุ 19ปี หมดอายุขัยเมื่อ1ชั่วโมงก่อนตามเวลาโลกมนุษย์จากยุคปัจจุบันสาเหตุการตายเกิดจากอายุขัยที่ลดลงของการสาปแช่ง หนึ่งดวงจิตสาปแช่งเท่ากับลด1วันอายุขัยของผู้โดนสาปแช่ง จากเดิมเจ้าจะหมดอายุขัยด้วยวัย73ปี"เชียะ!ใครมันจะเกลียดผมขนาดนั้น หนึ่งคนแช่งลดไป1วัน เหลือตั้ง54ปี ไม่เกือบสองหมื่นคนหรือไง
ิ ิ "เฮียยมครับ เขียนผิดรึเปล่าใครมันจะเกลียดผมเป็นหมื่น สองหมื่นคนละ ใช่มั้ยครับ"
"อ่ะ! อืมใช่แล้ว" เฮียยมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อละสายตาจากบันทึกมามองหน้าผม
"นั้นสิๆใช่มะ"
"จริงแล้วคนสาปแช่งเจ้า2 ล้านกว่าคนกับวิญญาณที่ตายเพราะเจ้าเป็นสาเหตุอีก256 ตน"
"ผมว่าแล้วว่าต้องมีอะไรผิดพ~ห๊ะ!!"
"ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดจากบันทึกแห่งความตายของข้า"ท่านยมทำหน้าไม่พอใจต่อคำกล่าวหา
"งั้นทำไมพวกเขาถึงแช่งผมล่ะ ผมไม่รู้จักคนพวกนั้นด้วยซ้ำ"ผมกัดฟันถามออกไป โธ...โว๊ย นี่มันเรื่องอะไรกัน บ้าชัดๆ ผมขอแช่งกลับให้คนพวกนั้นตายแบบผมจะได้รู้สึกเหมือนผมบ้าง
"เฮ้อ~ คำสาปแช่งเหล่านั้นเกิดจากรูปลักษณ์ของเจ้าเป็นสาเหตุของเรื่องต่างๆเพราะความงดงามของเจ้าเป็นที่หมายปองและเป็นที่หวาดหวั่นต่อผู้มีคนรักและนั้นคือสาเหตุการทะเลาะวิวาทกันของบุคลเหล่านั้น บอยครั้งที่พวกเขาเกิดพลาดพลั้งระหว่างวิวาท ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายและเสียใจจากเหตุการนั้น"ยมฑูตผู้ถือบันทึกหยุดคำกล่าว
เมื่อมองไปยังร่างวิญญาณบุรุษตรงหน้าแม้จะเป็นร่างวิญญาณก็ยังงดงามนักความงามนั้นเหนือกว่ามนุษย์หรือมากกว่าเทพเทวาที่มันผู้นี้เคยพานพบมามากมายนัก แม้หน้าตามึนงงทั้งยังพยายามตั้งใจฟังคำกล่าวของมัน ก็น่าเอ็นดู น่าหลงไหล ยามแรกสบตาก็ทำให้มันถึงกับหยุดชะงักลมหายใจไปครู่หนึ่ง
"เจ้าจำได้หรือไม่ว่าอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาทมักเกิดรอบๆตัวเมื่อเจ้าอยู่ ณ ที่นั้นๆ อย่างรถชนกัน คนโดนรถชนเพราะเดินฝาไฟแดงเมื่อเจ้าอยู่อีกฝากของถนน คนตกจากระเบียงตึกตรงข้ามกับที่พักของเจ้าหรือคู่รักตบตีกันบ้างก็ถึงขั้นหย่าล้างกันและก่อนวันที่เจ้าหมดอายุขัย ได้มีสตรีผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รักผู้คนมากมายโดนฆ่าโดยสามีของนางเมื่อชายผู้นั้นพบว่านางทำลายภาพถ่ายรูปเจ้าที่เขาภาคเพียงแอบถ่ายเก็บไว้ด้วยโทสะจึงทำร้ายนางจนถึงแก่ความตายแล้วภาพถ่ายรูปเจ้าที่เป็นหลักฐานของคดีก็เป็นที่รู้จักของคนมากมายรวมถึงผู้คนที่รักนาง ชื่นชอบนาง นั้นเป็นที่มาของคำสาปแช่ง ที่ทำให้อายุขัยของเจ้าหมดลง เฮ้อ"ยมฑูตผู้ถือบันทึกเมื่อกล่าวจบมันก็ทอดถอนลมหายใจออกมาอย่างนึกเวทนาปนสงสารร่างวิญญาณตรงหน้าความงดงามของเจ้าเป็นภัยต่อเจ้าแล้ว
และมันก็ได้กล่าวคำพิพากษาอีกครั้ง
"นี้คือคำพิพากษาจากข้าด้วยเนื่องเหตุทุกประการเจ้ามิได้เป็นผู้กระทำ แต่ก็เป็นดังต้นเหตุ ข้ายมทูตผู้ถือบันทึกแห่งความตายกับท่านเจ้านรกลงความเห็นให้เจ้าไปเกิดใหม่และลบล้างบาปบุญเก่าของเจ้า และอนุญาตให้เจ้ามิต้องดื่มน้ำแกงลืมชาติถ้าเจ้าต้องการ แต่รูปลักษณ์นั้นมิอาจเปลี่ยนแปลง เพื่อมิให้คำสาปแช่งมีผลกับเจ้าในภพหน้า เมื่อใดมีผู้สาปแช่งคำสาปนั้นจะไม่มีผลต่ออายุขัยของเจ้าและคำสาปนั้นจะให้ผลสะท้อนกลับด้านคำสาปนั้น คำสาปที่ให้ผลสะท้อนกลับด้านได้ต้องเกิดจากคำสาปแช่งของดวงจิตมนุษย์เท่านั้น เชิญเจ้าไปที่ประตูไร้นามเถิด" ทันใดนั้นก็ปรากฏประตูโบราณที่ข้มข้างเก่าแต่งดงามเหนือประตูพิภพบานใด
แครกๆ แล้วบานประตูไร้นามก็เปิดออกกว้างความงดงามยังสะกดสายตาทุกดวงวิญญาณ
"โอ้ว!สวยจังเลยพี่ยมฑูต แล้วมันเป็นประตูภพไหนหรือครับ"ผมยิ้มอย่างถูกใจให้เฮียยมแก แล้วคำตอบที่เฮียแกให้มาก็เป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตในภพนั้นมาก
"ไปถึงแล้วเจ้าก็รู้เอง"
เพียะ!
"โอ๊ย เฮียผลักผมทำไมเนี้ย มือหรือตีนเจ็บชิบเลยย"
แครกๆ แล้วเสียงโวยวายนั้นก็เบาลงจนเงียบพร้อมบานประตูไร้นามที่ปิดลงสนิทแล้วหายไป คงไว้เพียงร่างน่ายำเกรงของผู้ถือบันทึกแห่งความตายพร้อมรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าและรอยยิ้มนั้นจางหายไปอย่างรวดเร็วเสียงก็ดังขึ้นจากร่างนั้นอีกครั้งด้วยใบหน้าเรียบเฉย
" วิญญาณตนต่อไป"
ความคิดเห็น